เมนู

บทว่า เนตรา ปชา ความว่า หมู่ชนผู้ทุศีลนอกนี้ ยังกลิ่นศีลให้
ฟุ้งไปไม่ได้ คือชื่อว่า ยังกลิ่นเหม็น อันสำเร็จด้วยความเป็นผู้ทุศีลให้ฟุ้ง
ไป เพราะความเป็นผู้ทุศีลนั่นเอง อธิบายว่า ท่านไม่ยังกลิ่นเหม็นให้ฟุ้งไป
อย่างนี้ แล้วยังกลิ่นสำเร็จด้วยศีลให้ฟุ้งไปได้บ้างหรือ.
อีกอย่างหนึ่ง บทว่า เนตรา ปชา ความว่า หมู่ชนผู้ทุศีลนอกนี้
ยังกลิ่นศีลให้ฟุ้งไปไม่ได้ ข้อนั้นไม่มีดอกหรือ เพราะกลิ่นสำเร็จด้วยศีลย่อม
ฟุ้งไปได้. เพราะเหตุนั้น กลิ่นแห่งศีลเท่านั้น จึงปรากฏชัดเจน โดยแปลก
ออกไป ฉะนี้แล.
จบอรรถกถาชัมพุคามิกปุตตเถรคาถา

9. หาริตเถรคาถา
ว่าด้วยคาถาของพระหาริตเถระ


[166] ได้ยินว่า พระหาริตเถระได้ภาษิตคาถานี้ไว้ อย่างนี้ว่า
แน่ะท่านหาริตะ ท่านจงยกตนของท่านขึ้นจาก
ความเกียจคร้าน เหมือนช่างศรยกลูกศรขึ้นดัด ฉะนั้น
ท่านจงทำจิตให้ตรงแล้วทำลายอวิชชาเสีย.

อรรถกถาหาริตเถรคาถา


คาถาของท่านพระหาริตเถระ เริ่มต้นว่า สมุนฺนมยมตฺตานํ. เรื่อง
ราวของท่านเป็นอย่างไร ?
ได้ยินว่า ท่านเป็นผู้มีอธิการ อันกระทำไว้แล้ว ในพระพุทธเจ้า-
องค์ก่อน ๆ เข้าไปสั่งสมกองการบุญกุศล อันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานไว้
ในภพนั้น ๆ เห็นพระปัจเจกสัมพุทธเจ้า นามว่า สุทัสสนะ ในกัปที่ 31
แต่ภัทรกัปนี้ เป็นผู้มีจิตเลื่อมใสแล้ว กระทำการบูชาด้วยดอกอัญชันเขียว
ท่องเที่ยวไปในสุคติภพอย่างเดียว ด้วยบุญกรรมนั้น บังเกิดในตระกูลพราหมณ์
มหาศาล ในพระนครสาวัตถี ในพุทธุปบาทกาลนี้. ท่านได้มีนามว่า หาริตะ
เมื่อเขาเจริญวัยแล้ว มารดาบิดาได้นำกุมารีผู้เป็นบิดาของพราหมณ์
ซึ่งสมควรกันโดยตระกูลและรูปเป็นต้นมาให้. เขาเสวยโภคทรัพย์ร่วมกับกุมารี
นั้น มองดูรูปสมบัติของตนและของนางแล้ว อันธรรมดาตักเตือนอยู่ ได้ความ
สลดใจว่า ขึ้นชื่อว่า รูปเช่นนี้ จะถูกชราและมัจจุราชย่ำยีต่อกาลไม่นานเลย.
โดยล่วงไปไม่กี่วันนัก งูเห่า กัดภรรยาของเขาจนถึงตาย เขาเกิด
ความสลดใจด้วยเหตุนั้น เกินประมาณ ไปสำนักของพระศาสดาแล้ว ฟังธรรม
ตัดความผูกพันในเรือนได้แล้ว ออกบวช เมื่อท่านเรียนกรรมฐานอันสมควร
แก่จริงอยู่ กรรมฐานก็ไม่สำเร็จ จิตไม่แล่นไปตรงทาง ท่านเข้าไปสู่บ้าน
เพื่อบิณฑบาต เห็นช่างศรคนหนึ่ง ใส่ลูกศรเข้าในเครื่อง ทำการดัดให้ตรง
ก็คิดว่า ช่างศรเหล่านี้ ยังดัดลูกศรแม้ชื่อว่าหาเจตนามิได้ให้ตรง เหตุไรเราจึง
ไม่ทำจิต (ของตน) ให้ตรงเล่า ดังนี้แล้ว กลับแค่นั้นเองนั่งปรารภวิปัสสนา
ในที่พักกลางวัน.